
องค์การอนามัยโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรด้านสาธารณสุขที่จะเป็นบทบทสำคัญที่สุดในการช่วยผู้เสพติดบุหรี่ให้เลิกบุหรี่ จึงเป็นที่มาในการกำหนดประเด็นของการณรงค์ คือ บุคลากรสาธารณสุขกับการควบคุมยาสูบ “Health Professional and Tobacco Control” อีกทั้งยังได้เชิญผู้แทนองค์กรวิชาชีพด้านสาธารณสุขจำนวน 29 องค์กร เข้าร่วมประชุมเมื่อเดือนมกราคม 2547 ณ กรุงเจนีวา เพื่อร่วมกันร่างและลงนามเห็นชอบจรรยาปฏิบัติสำหรับบุคลากรด้านสาธารณสุขกับการควบคุมยาสูบ
บุคลากรด้านสุขภาพต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม ส่งถ่ายข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ที่มีผลเสียต่อสุขภาพ เพื่อรู้เท่าทันจากโฆษณาชวนเชื่อของบริษัทบุหรี่ ดังนั้นแล้วจึงจำเป็นต้องสอดแทรกทุกขั้นตอนของการตรวจวินิจฉัย การรักษา การป้องกัน รวมถึงการสร้างกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่ออนาคตของชาติพ้นจากพิษภัยของบุหรี่ ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ จึงได้มีการรวมตัวกันขององค์กรวิชาชีพสุขภาพ ทั้ง วิชาชีพแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และนักสาธารณสุข ทั้ง 5 องค์กร จัดตั้งขึ้นเป็น “เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่”
ในเดือนเมษายน 2548 โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในเดือนสิงหาคม 2548 ได้เพิ่มสมาชิกเครือข่ายวิชาชีพอีก 2 องค์กร ได้แก่ วิชาชีพเทคนิคการแพทย์ และวิชาชีพกายภาพบำบัด และในปีเดียวกันนี้ในเดือนกันยายน ได้เพิ่มอีก 1 วิชาชีพคือ วิชาชีพหมออนามัย ต่อมาปี 2549 วิชาชีพนักจิตวิทยาคลินิกก็เข้ามาเป็นอีกหนึ่งเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพ ต่อมาในปี 2550 เดือนตุลาคมและธันวาคม 2550 ได้เพิ่มสมาชิกใหม่คือ วิชาชีพแพทย์แผนจีน วิชาชีพแพทย์แผนไทย วิชาชีพแพทย์แผนไทยประยุกต์ วิชาชีพนักเวชนิทัศน์ และวิชาชีพรังสีเทคนิค ตามมาด้วยในปี 2551 มีสมาชิกเพิ่มคือ วิชาชีพสัตวแพทย์ สมาคมสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ และศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ สำหรับปี 2553
ในเดือนมกราคม สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชนนี ได้เข้ามาเป็นสมาชิกลำดับที่ 18 เดือนตุลาคม 2553 สมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทยได้เข้ามาเป็นสมาชิกลำดับที่ 19 เดือนมีนาคม 2554 เครือข่ายวิชาชีพนักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ เข้ามาเป็นสมาชิกเป็นลำดับที่ 20 เดือนมิถุนายน 2555 สมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย เข้ามาเป็นสมาชิกลำดับที่ 21
และในเดือนกรกฎาคม 2561 สมาคมเภสัชกรรมการตลาดได้เข้ามาเป็นสมาชิกลำดับที่ 22 สำหรับสมาชิกล่าสุดคือ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เข้ามาเป็นสมาชิกลำดับที่ 23 ในเดือนตุลาคม 2563
เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ มีเป้าหมายที่ยจะเป็นหนึ่งเครือข่ายที่มอบความรู้ต่อประชาชน และยังเป็นเครือข่ายที่สร้างความหวังดี ความห่วงใย ใส่ใจในชีวิตที่มีคุณภาพ ครอบครัวที่อบอุ่น ชุมชนที่เข้มแข็งและเป็นเครือข่ายที่ก่อกำเนิดสายใยจากทุกชนชั้นให้รวมพลังเป็นกำแพงที่แข็งแกร่งปกป้องเยาวชนให้พ้นพิษภัยบุหรี่ ทั้งนี้ เพื่อสังคมยุคใหม่ปลอดบุหรี่ ปลอดโรค และพร้อมที่จะเป็นพลังสร้างสรรค์อย่างมีคุณค่าแก่สังคมต่อไป ทั้งระดับภายในประเทศและระดับนานาชาติ
ในปี 2557 เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ได้รวมตัวกับองค์กรภาคีเพื่อทำเรื่องบุหรี่ด้วยกัน ตั้งเป็น “สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่” ร่วมกันดำเนินด้วยความเข้มแข็งต่อไป